Hypertensive
emergency
คือ
การที่มีความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยสัมพันธ์กับการทำลายของอวัยวะ (brain,
heart, aorta, kidneys, eyes); โดยนิยามปกติจะถือว่า hypertensive
emergency เมื่อ BP > 180/120 mmHg แต่พบว่าส่วนใหญ่ของ
stroke, aortic dissection, AMI และ AHF พบว่า BP ไม่ได้สูงมาก (SBP >
140-150 mmHg)
ให้วัด
BP
ของแขนทั้ง 2 ข้างขณะพักเงียบๆ จะถือว่าผิดปกติถ้า
BP ของแขน 2 ข้างต่างกัน >
20 mmHg (พบได้ใน aortic dissection, coarctation, PVD,
unilateral neurological และ musculoskeletal abnormalities)
และวัดซ้ำหลายๆครั้ง ก่อนที่จะเริ่มให้ยา antihypertensive และติดตามการรักษากับแขนข้างที่วัดได้สูงกว่า
อาการนำที่อาจจะสัมพันธ์กับ
hypertensive
emergency ได้แก่
- Chest pain ได้แก่ AMI, Ao dissection, CHF โดยเฉพาะ Ao dissection เพราะพบน้อย แต่มีอันตรายมาก จะมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง เกิดขึ้นทันทีทันใด คล้ายถูกฉีก อาจปวดร้าวไประหว่างสะบัก ส่วนน้อยจะตรวจพบ neurological/pulse deficit, diastolic murmur หรือ wide mediastinum จาก CXR, ECG อาจพบลักษณะของ AMI ได้
- Acute neurologic symptoms ได้แก่ strokes มาด้วย focal neurologic deficit และ hypertensive encephalopathy มาด้วย ปวดศีรษะ อาเจียน ตามัว ชัก สับสน ส่วนใหญ่จะตรวจพบ papilledema ซึ่งต้องทำ imaging เพื่อ exclude strokes และอาจพบลักษณะของ posterior reversible encephalopathy syndrome
- Acute renal failure, Peripheral edema ในรายที่มาด้วย ARF อาจจะมาด้วย บวม ปัสสาวะออกน้อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ สับสน หรือมี orthostatic changes; Pre-eclampsia ในหญิงตั้งครรภ์ > 20 สัปดาห์ สัมพันธ์กับ HT, peripheral edema, proteinuria และอาจจะมีภาวะ HELLP syndrome ร่วมด้วย
- Sympathetic crisis ได้แก่ clonidine withdrawal (หรือใช้ β-blocker ร่วมด้วย), pheochromocytoma (HT, tachycardia, flushed skin สลับกับช่วงไม่มีอาการ), sympathomimetic drugs (cocaine, amphetamines, PCP, LSD; MAOI ที่กินอาหารที่มี tyramine), autonomic dysfunction (spinal cord, severe head injury, spina bifida)
- Asymptomatic ในรายที่ไม่มีอาการปกติ การตรวจพิเศษขึ้นอยู่กับอาการนำของผู้ป่วย ประวัติ รวมถึง systemic reviews ยกตัวอย่างเช่น ECG, CXR, UA, Cr, blood chemistry
Treatment
(Goal)
- Aortic dissection (SBP 100–140, HR < 60) ให้ labetalol IV, esmolol IV, nicardipine IV (หลังให้ β-blocker) หรือ nitroprusside (หลังให้ β-blocker); pain control
- Acute hypertensive pulmonary edema (ลด BP ลง 20-30%) ให้ NTG SL/IV, nicardipine IV; loop diuretic
- Acute myocardial infarction (ลด BP ลง < 20%) ให้ NTG SL/IV, metprorlol/labetalol IV
- Acute sympathetic crisis (ลดอาการ) ให้ BZD IV (1st line), NTG SL/IV, phentolamine IV/IM (แนะนำใน pheochromocytoma); ในรายที่เกิดจาก clonidine withdrawal ให้ clonidine 0.2-0.3 mg PO
- Acute renal failure (ลด BP ลง < 20%) ให้ nicardipine IV, clavidipine IV, fenoldopam IV
- Hypertensive encephalopathy (ลด MAP ลง 20-25% ในชั่วโมงแรก) ให้ nicardipine IV, labetalol IV, fenoldopam IV, clavidipine IV; ไม่ควรให้ NTG เพราะ dilate cerebral artery
- SAH (ลด SBP < 160) ให้ nicardipine IV, labetalol IV, clavidipine IV; ถ้า BP ไม่สูงมาก ให้ nimodipine PO หรือ clozosentan
- ICH (MAP 110 (SBP 120-160); ถ้ามี IICP รักษาระดับให้ CPP > 60) ให้ labetalol IV, nicardipine IV, esmolol IV
- Acute ischemic stroke (ถ้าให้ fibrinolytic รักษาถ้า BP > 185/110 x 3 ครั้ง เป้าหมาย SBP 141-150; ถ้าไม่ได้ให้ fibrinolytic รักษาถ้า BP > 220/120 x 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 15 นาที เป้าหมาย BP < 185/110) ให้ labetalol IV, nicardipine IV
- Severe preeclampsia, HELLP syndrome, eclampsia (SBP < 160) ให้ MgSO4 4-6 gm in 100 mL IV > 20-30 min then drip 2 gm/hr และให้ labetalol, hydralazine 5 mg IV/10 mg IM q 20 min (max 20 mg IV/30 mg IM), nifedipine 10 mg PO q 30 min
Dose
ยา
|
Hypertensive
urgency
ในรายที่ไม่มีอาการ (หรือมีแค่ปวดศีรษะเล็กน้อย) ที่วัด BP > 180/>120 mmHg และไม่มีอาการ/อาการแสดงของ acute end-organ damage (ดูข้างบน)
- เป้าหมายระยะสั้น ให้ BP < 160/<100
mmHg แต่ลดลงไม่เกิน 25-30% จาก baseline
BP
- พักในห้องเงียบๆ 30 นาที ผู้ป่วยประมาณ 32% สามารถลด BP ได้ > 20/10 mmHg ในรายที่ไม่ดีขึ้นจึงเริ่มให้ยา
- ความเร็วในการลด BP
- ในรายที่เสี่ยงต่อ cardiovascular
events จาก HT (เช่น aortic/intracranial
aneurysm) ให้ลด BP ลงในเวลาหลายชั่วโมง ยาที่นิยมได้แก่
PO clonidine 0.1-0.2 mg, PO captopril (ถ้าไม่มี volume
overload) 6.25-12.5 mg
- ในรายอื่นๆ ให้ลด BP ลงในเวลาหลายวัน
- ผู้ป่วย HT เดิม สามารถให้ยาเดิมต่อ ปรับขนาดยาเพิ่ม หรือเพิ่มยากลุ่ม diuretic
และเน้นจำกัดการกิน sodium
- ผู้ป่วยใหม่ให้ long-acting
agents ที่เหมาะสม ถ้าเป้าหมายลด BP > 20/10 mmHg แนะนำให้ long-acting dihydropyridine CCB + long-acting ACEI/ARB (หรือยาอื่นขึ้นกับโรคร่วม เช่น recent MI ให้ beta-blocker
+ ACEI/ARB หรือ edematous HF ให้ loop
diuretic + ACEI/ARB)
- ในคนสูงอายุที่ PP กว้าง (เช่น
SBP > 180 แต่ DBP < 90) ต้องค่อยๆลด
BP ช้าๆ (> 1 สัปดาห์) เพราะเสี่ยงต่อ cerebral/myocardial ischemia ถ้าลด
BP ลงเร็ว
- ในรายที่เสี่ยงต่อ cardiovascular events ให้นัด F/U 1-2 วัน ส่วนในรายอื่นๆอาจให้วัด BP ที่บ้านและโทรติดตามอาการ และนัด F/U ปรับยา (ถ้า BP > 180/110 F/U ภายใน 1 สัปดาห์; BP > 160/100 F/U ภายใน 1 เดือน; BP < 160/100 F/U ภายใน 2 เดือน)
Hypertensive
emergency ในเด็ก
คือ
BP > 95th-99th
percentile ของเด็กตามอายุ เพศและน้ำหนัก (Link) + 20 mmHg ร่วมกับมี target organ damage ให้ลด BP < 95th-99th percentile ไม่เกิน 25% ของ MAP ในชั่วโมงแรก
แล้วค่อยๆลดลงใน 24-48 ชั่วโมง โดยยาที่นิยมให้ได้แก่
|
Ref: Tintinalli ed 8th; UpToDate
ขอRef อ้างอิงหน่อยคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ