เป็นการประเมิน Stroke
score ที่หมอที่อยู่ ER คุ้นเคยกันดี
ในหมอที่มีประสบการณ์สามารถประเมินเสร็จได้ภายใน 7 นาที
หลักการก่อนการประเมินคร่าวๆดังนี้
ประเมินต่อเนื่องเป็นข้อๆตามลำดับ ให้คะแนนสิ่งที่ผู้ป่วยทำได้
ไม่ใช่สิ่งที่หมอคิดว่าผู้ป่วยทำได้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมได้แก่
เข็มกลัดไว้ตรวจ Sensory และ naming
card ไว้ตรวจ language function
1.
Level of consciousness
· 1a ดู :
ถามคำถามทั่วไป ดูว่าตื่นดี ตอบได้ ตอบสนองด้วยสายตา หรือต้องกระตุ้นถึงจะตอบสนอง
(minor stimuli หรือ painful stimuli) หรือไม่ตอบสนองเลย
0
= รู้ตัวดี ตอบสนองเป็นปกติ
1
= ง่วงซึม ปลุกตื่นได้ง่าย
เมื่อตื่นถามตอบรู้เรื่องและสามารถทำตามสั่งได้
2
= หลับตลอดเวลา ปลุกตื่นได้แต่ต้องใช้ตัวกระตุ้นแรงๆ
ซ้ำๆกับหลายๆครั้ง หรืออาจจำเป็นต้องใช้สิ่งเร้าที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด
3
= ไม่ตอบสนองแต่สามารถตรวจพบปฏิกิริยาอัตโนมัติ (Reflex) ได้
|
· 1b ถาม
: อายุเท่าไหร่? เดือนนี้เดือนอะไร? ถ้าพูดไม่ได้จากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ aphasia หรือ stuporous
เช่น ใส่ ETT, severe dysarthria, language barrier ให้ 1 คะแนน
0
= ตอบถูกทั้ง 2 ข้อ
1
= ตอบได้ถูกเพียง 1 ข้อ (หรือเข้าใจภาษาแต่ตรวจไม่ได้เช่น ETT, severe dysarthria,
language barrier)
2
= ไม่สามารถตอบคำถามได้หรือตอบผิดทั้ง 2 ข้อ
|
· 1c สั่ง
: ให้หลับตา แล้วลืมตา ให้กำมือแล้วแบบมือ
0
= ทำได้ถูกต้องทั้ง 2 อย่าง
1
= ทำได้ถูกต้องเพียงอย่างเดียว
2
= ไม่ทำตามคำสั่ง หรือทำไม่ถูกต้อง
|
2.
Best gaze คือการตรวจ
EOM เฉพาะ horizontal movement ให้มองตามนิ้วมือ
มองตามหน้า หรือ reflexive
(oculocephalic) eye movement ในผู้ป่วยที่ทำตามสั่งไม่ได้
0
= มองตามได้เป็นปกติ
1
= ตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างเหลือบมองไปด้านข้างได้แต่ไม่สุด
2
= เหลือบตามองด้านข้างไม่ได้เลย
หรือมองไปด้านใดด้านหนึ่งจนสุดโดยไม่สามารถแก้ไขด้วย oculocephalic
manever
|
3.
Visual fields ตรวจโดยปิดตาทีละข้าง
(แบบ confrontation test) ตรวจแยก quadrant
บน-ล่าง ซ้าย-ขวา
โดยการให้นับนิ้ว บอกข้างที่นิ้วขยับ หรือใช้ visual threat และควรตรวจหลาย
quadrant พร้อมกันซึ่งอาจจะพบความผิดปกติบางส่วนได้
0
= ลานสายตาปกติ
1
= ลานสายตาผิดปกติบางส่วน
2
= ลานสายตาผิดปกติครึ่งซีก
3
= มองไม่เห็นทั้ง 2 ตา (ตาบอดจากสาเหตุใดๆก็ตาม)
|
4.
Facial palsy ให้ยิ้ม
ดูความต่างของ nasolabial fold 2 ข้าง ให้ปิดตาแน่น ย่นหน้าผาก หรือถ้าผู้ป่วยไม่ทำตามสั่งให้กระตุ้น pain
แล้วดูสีหน้าแทน
0
= ไม่พบการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้า
1
= เห็นมุมปากตกหรือไม่เท่ากันเมื่อยิ้ม
2
= กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงมาก แต่ยังพอเคลื่อนไหวได้
3
= ใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างไม่ขยับเลย
|
5.
Motor arm ลืมตายกแขนเหยียด
90° ในท่านั่ง ยก 45° ในท่านอนทีละข้าง
(อาจยกให้ผู้ป่วยก่อนแล้วผู้ป่วยอาจลดระดับมาระดับที่ comfort
แล้วค่อยเริ่มนับ) นับ 1-10 นับดังๆ อาจใช้มือประกอบเพื่อกระตุ้นผู้ป่วย บางครั้งยกไม่ขึ้นเลยต้องกระตุ้นให้ขยับส่วน
proximal เช่น ไหล่ สะโพก
0
= ยกค้างได้ตลอด 10 วินาที
1
= ยกค้างได้ไม่ถึง 10
วินาทีแต่แขนไม่ตกลงบนเตียง
2
= ยกได้บ้าง จากนั้นแขนตกลงบนเตียง
3
= ยกแขนไม่ขึ้น (พอขยับได้เช่นให้ขยับหัวไหล่ได้)
4
= ไม่มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแขน
9
= แขนพิการหรือข้อติดไม่สามารถตรวจได้
|
6.
Motor leg ยกขาเหยียดตรง 30°
ในท่านอนทีละข้าง นับ 1-5 เช่นเดียวกับ motor
arm
0
= ยกค้างได้ตลอด 5 วินาที
1
= ยกค้างได้ไม่ถึง 5 วินาทีแต่ขาไม่ตกลงบนเตียง
2
= ยกได้บ้าง จากนั้นขาตกลงบนเตียง
3
= ยกแขนไม่ขึ้น (พอขยับได้เช่นให้ขยับสะโพกได้)
4
= ไม่มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขา
9
= ขาพิการหรือข้อติดไม่สามารถตรวจได้
|
7.
Limp ataxia ตรวจ Finger
to nose to finger และ heel to shin test ทีละข้าง
(การตรวจต้องดูระดับ weakness และ visual
field ของผู้ป่วยด้วย) ในผู้ป่วยที่มองไม่เห็น
ให้เหยียดแขนแล้วจับจมูกแทน ***paralyzed หรือไม่เข้าใจให้ถือว่าไม่มี
ataxia
0
= การประสานงานของแขนขาทั้ง 2 ข้างเป็นปกติ
1
= มีปัญหาในการประสานงานของแขนหรือขา 1 ข้าง
2
= มีปัญหาในการประสานงานของแขนหรือขา 2 ข้าง
9
= แขนหรือขาพิการหรือข้อติดไม่สามารถตรวจได้
|
8.
Sensory ใช้เข็มกลัด
ทดสอบบริเวณใบหน้า แขน ขา 2 ข้าง
เทียบกับว่ารู้สึกแหลมเท่ากันหรือไม่ (ไม่ใช้มือ-เท้า เพราะมีเรื่อง neuropathy เข้ามากวนได้)
ถ้าstuporous หรือ aphasia ให้ใช้ nailbed pressure ได้ดูว่ายังมี sensation
หรือไม่
0
= รับความรู้สึกเป็นปกติ
1
= รับความรู้สึกจากวัตถุปลายแหลมลดลง
2
= ไม่รู้สึกว่าถูกสัมผัสที่ใบหน้า แขนและขา
|
9.
Best language ให้บรรยายรูปภาพ
และบอกชื่อสิ่งของตามภาพ (Naming) ถ้ามองไม่เห็นให้จับสิ่งของแล้วบอกชื่อแทน
ถ้าพูดไม่ได้ให้เขียนแทน
0
= สื่อภาษาเป็นปกติ
1
= สูญเสียความสามารถในการใช้ภาษาบางส่วน
แต่ยังพอเข้าใจว่าผู้ป่วยกำลังพูดถึงอะไร
2
= ผู้ทดสอบไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ป่วยกำลังพูดถึงอะไร
3
= ไม่พูดหรือไม่เข้าใจภาษาที่ผู้ตรวจพยายามสื่อสาร
ไม่สามารถแสดงท่าทาง พูดหรือเขียนให้ผู้อื่นเข้าใจได้ (Global aphasia)
|
10.
Dysarthria ให้อ่านบัตรคำ
ว่าฟังชัดเจน ไม่ชัด หรือฟังไม่รู้เรื่องเลย
0
= เปล่งเสียงได้ชัดเจนเป็นปกติ
1
= พูดไม่ชัด แต่พอเข้าใจได้
2
= พูดไม่ชัดขนาดที่ฟังไม่เข้าใจ
9
= ตรวจไม่ได้เพราะใส่ท่อช่วยหายใจหรือมีปัญหาทางกายในการเปล่งเสียง
|
11.
Extinction and Inattention (Neglect)
(ข้อนี้อาจได้จากการตรวจในข้อที่ผ่านๆมา) ให้หลับตา
ใช้นิ้วแตะข้างซ้าย-ขวา แตะที่ใบหน้า แขน
ขาทีละข้างแล้วแตะพร้อมกัน 2 ข้าง บอกว่าข้างไหน และตรวจ visual
double stimultaneous stimulation ลืมตาสองข้าง
ขยับนิ้วบอกว่าขยับข้างไหน แล้วขยับพร้อมกัน 2 ข้าง
0
= ไม่พบความผิดปกติ
1
= พบความผิดปกติชนิดใดชนิดหนึ่ง จากการมองเห็น การสัมผัส
การได้ยิน เมื่อมีการกระตุ้นทั้ง 2 ข้างพร้อมๆกัน
2
= มีความผิดปกติของการรับรู้มากกว่า 1 ชนิดหรือไม่รับรู้ว่าเป็นมือของตนเองหรือสนใจสิ่งเร้าเพียงด้านเดียว
|
มี Part 1-7 สามารถดูเพิ่มเติมได้ใน youtube หรือ http://nihss-english.trainingcampus.net/uas/modules/trees/windex.aspx
ช่วยทำให้มั่นใจในการปฏิบัติงานมากขึ้นค่ะ
ตอบลบ