วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แพทย์ฉุกเฉิน บริษัทประกัน และสวัสดิภาพผู้ป่วย (EP, Insurer & Patient welfare)

ผู้ป่วยที่มารักษา (โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชนส่วนหนึ่งจะมีการทำประกันชีวิตไว้ ซึ่งที่แพทย์ห้องฉุกเฉินต้องเกี่ยวข้องด้วยหลักๆก็มีประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ โดยเฉพาะแบบต้องนอนโรงพยาบาลจึงเบิกได้ ผู้ป่วยส่วนหนึ่งต้องการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อที่จะใช้สิทธิเบิกประกัน แพทย์ในฐานะคนกลางจึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับประกันทั้ง อย่าง เพื่อที่จะได้เขียนใบประกันได้อย่างถูกต้อง
           1.      ประกันอุบัติเหตุ (PA)
นิยาม
อุบัติเหตุ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจากปัจจัยภายนอกร่างกาย และทำให้เกิดผลที่ผู้เอาประกันมิได้เจตนาหรือมุ่งหวัง
การบาดเจ็บ หมายถึง การบาดเจ็บทางร่างกายที่เป็นผลโดยตรงจากอุบัติเหตุ เกิดขึ้นโดยเอกเทศและโดยอิสระจากเหตุอื่น ซึ่งจำเป็นต้องรับการรักษาภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดอุบัติเหตุ
และมีข้อยกเว้นทั่วไปของบริษัทประกันส่วนใหญ่เช่น
  •            ภายใต้ฤทธิ์สุรา สารเสพติด
  •            การฆ่าตัวตาย การพยายามฆ่าตัวตาย การทำร้ายตัวเอง
  •            การบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท
  •            การบาดเจ็บจากกระสุนปืน
  •            การบาดเจ็บที่ตาจากฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมอื่น (ยกเว้นแพทย์เขี่ยสิ่งแปลกปลอมออก หรือมีบาดแผลที่ดวงตาหรือเยื่อบุตา)
  •            การแท้งลูก
  •            การรักษาฟัน ยกเว้นจากอุบัติเหตุ แต่ไม่รวมถึง การทำฟันปลอม ครอบฟัน ทำรากฟัน ใส่รากฟันเทียม
  •            ปวดหลังจากกล้ามเนื้อ หมอนรองกระดูกเลื่อน กระดูกสันหลังเสื่อม/เลื่อน/อักเสบ
  •            สัตว์ที่ (บริษัทประกันเข้าใจว่าไม่มีพิษหรือไม่สามารถระบุชนิดได้ เช่น มด แมลง เห็บ ไร เว้นแต่เกิดอาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis shock)
  •            การแพ้ยาหรือผลข้างเคียงจากยา การแพ้อาหาร
  •            จากการก่ออาชญากรรม ขณะจับกุมหรือหนีการจับกุม หรือขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัคร และเข้าปฏิบัติการในสงครามหรือปราบปรามหรือ จากสงครามหรือการกระทำมุ่งร้ายคล้ายสงคราม
  •            บาดเจ็บเนื่องจากปัญหาสุขภาพ เช่น เป็นลมหน้ามืด ศีรษะฟาดพื้น
  •            เกิดจากพฤติกรรมความเสี่ยงเช่น แข่งรถ แข่งเรือ ชกมวย โดดร่ม  เครื่องร่อน ไต่เขา เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าบางอย่างก็มีระบุในกรมธรรม์ แต่บางอย่างก็ไม่ได้ระบุไว้ขึ้นอยู่กับการตีความของบริษัทประกันเอง ซึ่งแพทย์ควรที่จะรู้จักข้อยกเว้นส่วนใหญ่ไว้

             2.      ประกันสุขภาพ (แบบต้องนอนรพ.)
นิยาม
ผู้ป่วยใน หมายถึง ผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงซึ่งต้องลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในโดยได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ และในระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรักษาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยนั้นๆ
และมีข้อยกเว้นทั่วไปของบริษัทประกันส่วนใหญ่เช่น
  •         โรคที่เป็นมาตั้งแต่ก่อนทำประกัน
  •         เพื่อเสริมสวย (ยกเว้นจากอุบัติเหตุ)
  •         การตั้งครรภ์ แท้งบุตร คลอดบุตร การแก้ปัญหาการมีบุตรยาก การทำหมัน คุมกำเนิด
  •         การรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมของวัย การให้ฮอร์โมนทดแทนในวัยหมดระดู การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  •         การพักฟื้นโดยวิธีให้พักเฉยๆ
  •         การตรวจรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา การทำเลสิค
  •         การตรวจรักษาเกี่ยวกับฟันหรือเหงือก
  •         การบำบัดรักษาเกี่ยวกับยาเสพติด บุหรี่ สุรา
  •         โรคเกี่ยวกับภาวะจิตใจ ทางพฤติกรรม ทางบุคลิกภาพ
  •         การรักษาแพทย์ทางเลือก การรักษาที่อยู่ในระหว่างทดลอง โรคจากความผิดปกติจากการนอนหลับ
  •         การรักษาหรือผ่าตัดต่อมทอนซิล ต่อมในหลอดคอ ไส้เลื่อน หรือโรคภายในสตรี
  •         การพยายามฆ่าตัวตาย การทำร้ายตัวเอง การบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท
ถ้าดูจากข้อกำหนดทั้งหมดนี้พบว่าปัจจัยที่จะทำให้เบิกประกันได้หรือไม่อย่างหนึ่งก็คือ Diagnosis ของแพทย์ซึ่งจะโยงไปถึงข้อบ่งชี้ในการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

การเขียน diagnosis ของแพทย์ก็ควรต้องดูความเหมาะสม (และถูกต้องด้วยว่าควรเขียนอย่างไร
          1. การวินิจฉัยโรคที่มีความรุนแรงอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาเช่น anaphylaxis, myocardial infraction, pulmonary embolism, pneumothorax, cardiogenic syncope
          
          2. การวินิจฉัยโรคที่มีหลายระดับ ซึ่งอาจจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงเพราะฉะนั้นต้องมีคำที่ระบุ severity ยกตัวอย่างเช่น            
  • new/symptomatic CHF
  • significant probability of ACS
  • hypertensive emergency
  • AF with unstable/high risk stroke/associated medical condition
  • unexplained syncope with compatible high risk criteria
  • COPD with acute exacerbation
  • acute decompensated cirrhosis
  • hepatitis with liver dysfunction
  • Dengue with warning signs
  • Fever with high risk for bacteremia
  • UV keratitis with bilateral patching
  • epistaxis with severe blood loss
  • anemia with symptomatic/ongoing blood loss
        3. การวินิจฉัยโรคที่อาจดูไม่รุนแรง แต่มีเหตุผลในการนอนโรงพยาบาล เช่น need O2 supplement, significant co-morbidity, high risk group,  need pain control, significant vomiting, intractable pain, signs of sepsis, toxic appearance, unstable vital signs, etc.     
         
        4.การเลือกใช้คำ (ให้ดูดี) ในบางโรคอาจจะช่วยให้สถานการณ์การวินิจฉัยโรคในใบประกันดีขึ้นเช่น acute, severe, sudden, serious, distress, pain, fever, progressive
    •         Acute chest pain แทน Esophagitis
    •         Acute febrile illness with cough หรือ Acute tracheobronchitis แทน URI/common cold
    •         Acute severe abdominal pain หรือ Acute dehydration secondary to N/V แทน Gastroenteritis
    •         Acute viremia แทน Flu/Viral illness  
    •         Acute cervical pain หรือ Acute chest wall syndrome หรือ Acute lumbar strain/pain due to a MVA/fall แทน Musculoskeletal Pain
    •         Acute febrile illness secondary to acute otitis media หรือ Otalgia  แทน Otitis media
         ****โรคบางโรคมักมีปัญหาในการเบิกเสมอๆ (โดยไม่ทราบเหตุผลชัดเจน) จึงควรหลีกเลี่ยงไปใช้คำอื่นเช่น Migraine headache, Vertigo, Food poisoning เป็นต้น

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น