วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Approach to Skin disorders

Approach to Skin disorders

ซักประวัติและตรวจร่างกาย
  • อาการสำคัญ ประวัติผื่น มีอาการอะไรมาก่อน ที่ไหน เป็นนานเท่าใด เริ่มจากไหน กระจายไปไหน ลักษณะผื่น การเปลี่ยนแปลงของผื่น
  • ซักหาสาเหตุ ได้แก่ ใกล้ชิดคนป่วย เพศสัมพันธ์ แมลง สัตว์ พืช อาหาร ยา สารเคมี ตากแดด ท่องเที่ยว
  • ตรวจผิวหนัง เล็บ ผม หนังศีรษะ และเยื่อบุต่างๆ โดยดูลักษณะผื่น และรูปแบบการกระจายตัวเป็นสำคัญ เช่น
    • Dermatome: VZV
    • Flexor surfaces: atopic dermatitis, candidiasis, eczema, ichthyosis
    • Sun exposure: sunburn, photosensitive drug eruption, photosensitivity dermatitis, SLE, viral exanthema, porphyria
    • Distal extremities: viral exanthema, atopic dermatitis, contact dermatitis, eczema, gonococcemia
    • Front-back of chest: pityriasis rosea, 2o syphilis, drug eruption, atopic-contact dermatitis, psoriasis
    • Clothing covered: contact dermatitis, psoriasis, folliculitis
    • Acneiform: acne, drug-induced acne, irritant dermatitis
    • Bilateral symmetry สงสัย systemic event เช่น erythema multiforme

การบรรยาย skin lesion ได้แก่ ขนาด สี ชนิด ผิว รูปร่าง การกระจายตัว
  • Primary lesions ได้แก่ macule, patch, purpura, petechial, telangiectasia, papule, comedo, plaque, wheal, cyst, nodule , tumor, vesicle, bulla, pustule, abscess
  • Secondary lesions ได้แก่ excoriation, erosion, sclerosis (lichenification), crust, ulcer, fissure, atrophy,  scar
  • Configuration ได้แก่ annular (รูปแหวน), arcuate (โค้ง), circinate (กลม), confluent (รวมกัน), dermatomal (ตาม dermatome), discoid (กลมยก), discrete (แยกกัน), grouped (รวมเป็นกลุ่ม), guttate (กระจัดกระจาย), gyrate (โค้งเป็นวง), herpetiform (ตุ่มน้ำเป็นกลุ่ม), iris (target-like), linear, polycyclic, retiform (ตาข่าย), serpiginous (คดไปมา)
  • Distribution ได้แก่ dermatome, bilateral symmetry-asymmetry, flexor-extensor, sun-clothing cover exposure, proximal-distal, front-back, acneitoform

Ix: KOH (dermatophyte, molluscum contagiosum), direct microscope (scape from burrow/papule: scabies), Tzanck smear (HZV, VZV, HSV), Wood’s light (erytherasma-Corynebacterium; fungal infection-Malassezia, Microsporum; pseudomonal skin infection, porphyria cutaneous tarda)

Tx: การรักษาตาม specific diagnosis ตัวอย่างยาที่ใช้ได้แก่
  • Systemic steroid ตัวอย่างโรคที่ใช้ เช่น urticaria > 20% BSA, contact หรือ allergic dermatitis ได้แก่ prednisolone 40 mg PO OD x 4 d; ไม่ควรใช้ใน DM, HT, active PU, psychiatric disease, immunodeficiency
  • Topical corticosteroids หลักการใช้ยา topical steroids
    • เลือก potency ให้เหมาะกับโรคและตำแหน่งที่เป็น

  • Psoriasis, palm/soles, severe eczema, severe atopic dermatitis เลือกกลุ่ม high potency เช่น clobetasone, 0.05 % betamethasone ointment, 0.1% mometasone ointment
  • Atopic dermatitis, stasis dermatitis, seborrheic dermatitis, tinea, scabies ใช้กลุ่ม mid-strength เช่น 0.05% betamethasone lotion, 0.1% triamcinolone ointment, 0.1% mometasone cream/lotion,  0.1% betamethasone cream
  • Dermatitis บริเวณใบหน้า เปลือกตา ข้อพับ ขาหนีบ ใช้กลุ่ม mild potency เช่น 0.025% triamcinolone cream, 1% hydrocortisone
    • ทายาบางๆแล้วนวด ความถี่ในการใช้ยาให้คงเดิมแม้ว่าอาการจะเริ่มดีขึ้น
    • เพื่อป้องกัน tachyphylaxis ถ้าเป็นยา high potency ให้ทายาวันละ 2-3 ครั้ง x 1-2 สัปดาห์แล้วหยุดพัก 1 สัปดาห์ ถ้า low potency ให้ทายาวันละ 3 ครั้ง x 2-4 สัปดาห์แล้วหยุดพัก 1 สัปดาห์
    • ปริมาณที่ให้ gm = จำนวนครั้งที่ทาต่อวัน x จำนวนวัน x %BSA x 0.3
  • Antihistamine แนะนำให้ PO > topical เพราะว่ายาทาก็ดูดซึมเหมือนกันและควบคุมปริมาณยาก โดยอาจให้ H2 antagonist คู่กับ H1 antagonist ใน severe allergic reaction
  • Topical ATB มีที่ใช้เช่น topical mupirocin ใน skin infection; polymyxin B, bacitracin, neomycin, silver sulfadiazine (ห้ามใช้ที่ใบหน้า) ใน wound dressing; oral tetracycline rinse ใน aphthous ulcer
  • เลือกตัวกลางของยาที่เหมาะสม เช่น
    • Cream (oil + water + preservative) จะไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้กับบริเวณใดก็ได้ มักใช้ใน acute therapy เพราะถ้าใช้เป็นเวลานานจะทำให้ผิวแห้ง ในผู้ป่วยบางรายอาจแพ้ยา preservative ให้เปลี่ยนเป็นกลุ่ม ointment แทน
    • Ointment (petroleum) เป็นลักษณะขี้ผึ้ง ช่วยหล่อลื่น นำยาไปได้ลึกกว่ากลุ่ม cream ช่วยกักความชุ่มชื้นไว้ ไม่เหมาะกับกลุ่ม acute exudative syndrome หรือบริเวณ intertriginous area
    • Gels (propylene glycol + water +/- alcohol) จะรู้สึกเหนียวๆ กลุ่ม alcohol-containing gel จะเหมาะกับ acute exudative lesion และในกลุ่ม alcohol-free จะใช้ในบริเวณที่แห้ง ตกสะเก็ด บางครั้งนิยมใช้บริเวณหนังศีรษะเพราะไม่มีผลต่อทรงผม
    • Solutions หรือ lotions จะเหลวกว่าตัวกลางประเภทอื่นๆ มักใช้บริเวณหนังศีรษะหรือที่มีขนเยอะๆเพราะไม่ค่อยเห็นเศษค้างบนเส้นขน



Ref: Tintinalli ed8th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น