Leader task
1.Get information 2. Take over: “เอาละ ผมรับต่อจากคุณเลยครับ” 3. Leader มอบหมายหน้าที่ให้ชัดเจน
ประเด็นสำคัญในการ CPR: 1. Algorithm 2. การกดหน้าอกอย่างมีประสิทธิภาพและ 3. การหา reversible cause 5H 5T
1.Get information 2. Take over: “เอาละ ผมรับต่อจากคุณเลยครับ” 3. Leader มอบหมายหน้าที่ให้ชัดเจน
ประเด็นสำคัญในการ CPR: 1. Algorithm 2. การกดหน้าอกอย่างมีประสิทธิภาพและ 3. การหา reversible cause 5H 5T
1. Algorithm
- Start CPR (ดูเรื่อง BLS)
- Attach monitor/defibrillator ดูว่าเป็น rhythm shockable หรือไม่
***ในช่วง 2-3 นาทีแรกหลัง
cardiac
arrest ไม่จำเป็นต้องรีบใส่ advance airway ถ้ารบกวนการทำ chest compression และ defibrillation ใน VF cardiac arrest
ภาพจาก AHA 2015 |
VF/pVT
- Shock biphasic 120-200J (ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) ทันทีที่ทำได้แล้ว CPR ต่อทันที
- เปิด IV/IO access ส่งตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุเช่น blood gas, blood chemistry, glucose POCT
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหลัง CPR ทุก 2 นาที ถ้าเป็น organized rhythm ให้ check pulse
- เริ่มให้ epinephrine 1 mg diluted to 10 mL IV q 3-5 min หลังจากทำการช็อกไฟฟ้าครั้งที่สอง
- พิจารณาใส่ advanced airway (ETT หรือ supraglottic advanced airway) ทำการ secure ETT และยืนยันตำแหน่งด้วย ETCO2 (หรือวิธีอื่นๆเช่น oesophageal detector device, ultrasound)
- ให้ Amiodarone 300 mg IV push หรือ Lidocaine 1.5 mg/kg IV หลังทำการช็อกไฟฟ้าครั้งที่สาม (refractory VF) (Amiodarone 150 mg IV bolus ถ้าให้ครั้งที่ 2) **หลังให้ยาควร CPR ต่อเนื่องอย่างน้อย 30-60 วินาที ก่อนที่จะ shock รอบใหม่
Asystole
- เปิด IV/IO access ส่งตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุ
- ให้ epinephrine 1 mg IV q 3-5 min
- พิจารณาใส่ advanced airway
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจหลัง CPR ทุก 2 นาที ถ้าเป็น organized rhythm ให้ check pulse
2. การกดหน้าอกอย่างมีประสิทธิภาพ
- กดหน้าอกลึกอย่างน้อย 2 นิ้ว (5 ซม.) และเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที และปล่อยหน้าอกให้คืนสุด
- รบกวนการกดหน้าอกให้น้อยที่สุด
- ไม่ช่วยหายใจมากเกินไป
- สลับผู้กดหน้าอกทุก 2 นาที (หรือเร็วกว่านี้ ถ้าเหนื่อย)
- ถ้าไม่ได้ใส่ advanced airway ให้ CPR 30:2
- ถ้าใส่ advanced airway ให้ช่วยหายใจ 1 ครั้งทุก 6 วินาที (10 ครั้ง/นาที)
- ใช้ Physiologic parameter มาควบคุมประสิทธิภาพในการ CPR ได้แก่
- Quantitative waveform capnography พยายามให้ PETCO2 > 20 mmHg (เมื่อมี ROSC แล้ว PETCO2 จะขึ้นมาที่ 35-40 mmHg)
- Arterial relaxation diastolic pressure พยายามให้ diastolic pressure > 25 mmHg
- Coronary perfusion pressure (CPP) พยายามให้ > 20 mmHg
Mechanical CPR device: load-distributing band Autopulse; ภาพจาก zoll.com |
Mechanical CPR device: active compression-decompression LUCUS-2 |
3. ทบทวนสาเหตุ
5H 5T: Hx, PE, VBG, DTX
Hypoxia
Hypovolemia
Hydrogen ion
Hypo-/hyperkalemia
Hypothermia
|
Toxins
Tamponade, cardiac
Tension pneumothorax
Thrombosis, pulmonary
Thrombosis, coronary
|
ตัวอย่างการหาสาเหตุและการรักษา
- Hypoxia: ใส่ advance airway ฟังปอด 2 ข้าง ดูว่าให้ O2
- Hypovolemia: ประวัติ blood loss/fluid loss, ตรวจ PR ดู LGIH, ใส่ NG ดู UGIH, FAST ดู peritoneal fluid
- Hydrogen ion: ใส่ ETT แก้ respiratory acidosis, ทำ good-quality CPR รักษา metabolic acidosis, ถ้ามี severe metabolic acidosis จาก prolonged หรือ poor CPR ให้ NaHCO3 1-1.5 mEq/kg และให้ซ้ำในขนาดครึ่งหนึ่งอีก 10-15 นาที (ขึ้นกับ pH)
- Hyperkalemia: สงสัยในรายที่ dialysis (มี AVF, dialysis catheter) ให้รักษาเลยด้วย Ca, NaHCO3, RI, glucose IV; ถ้าสงสัยจาก digitalis toxicity ให้ Mg IV หรือ Digibind®
- Hypothermia: ให้ warm blanket และ warm IV; ถ้า ROSC และไม่ gain consciousness ให้คง core temp ที่ 33 oC
- Toxins: ถ้าสงสัย TCA ให้ NaHCO3 IV หรือให้ lipid emulsion IV ถ้าเกิดจาก TCA หรือ local anesthetic toxicity
- Tamponade, cardiac: ทำ bedside US, รักษาโดยการทำ pericardiocenthesis
- Tension pneumothorax: ถ้า breath sound ไม่เท่ากันและ ETT อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม; ทำ needle decompression
- Thrombosis, cardiac: ทำ ECG หลัง ROSC; ทำ PCI
- Thrombosis, pulmonary: มีอาการที่สงสัยนำมาก่อน; อาจให้ fibrinolysis
- Narrow complex PEA มักมีสาเหตุจาก mechanical problems เช่น cardiac tamponade, pneumothorax, mechanical hyperinflation, pulmonary embolism, myocardial rupture ซึ่งการทำ ultrasound จะช่วยในการวินิจฉัยได้ นอกจากนี้ยังใช้ประเมิน prognosis ได้ เช่นดู myocardial contractility (ถ้าการทำ US นั้นไม่รบกวนการ CPR)
- Wide complex PEA สามารถเกิดจาก metabolic (hyperkalemia), drug toxicity (TCA), AMI, LV failure
คำแนะนำอื่นๆ
- การให้ยาทาง peripheral IV ให้ bolus injection แล้วตามด้วย fluid bolus 20 mL ร่วมกับยกแขนขาที่ฉีดยาขึ้นชั่วครู่
- ยาที่สามารถให้ทาง ETT ได้แก่ lidocaine, epinephrine, vasopressin ให้ขนาด 2-2.5 เท่า dilute ใน sterile water หรือ NSS 5-10 mL
- พิจารณาทำ extracorporeal CPR ใน ร.พ.ที่มีศักยภาพ กรณีที่ cardiac arrest จากสาเหตุที่แก้ไขได้หรือประคับประคองระหว่างรอทำ cardiac transplant
- พิจารณาหยุด CPR หลังจาก CPR 20 นาทีและร่วมกับไม่สามารถทำให้ waveform ของ ETCO2 > 10 mmHg ได้
- ใน VF/pVT arrest อาจพิจารณาให้ lidocaine IV หลังจาก ROSC เพื่อลดการเกิด recurrent VF/pVT
- สิ่งที่ไม่แนะนำให้ใช้เป็น routine ได้แก่ atropine, sodium bicarbonate (ยกเว้น preexisting metabolic acidosis, hyperkalemia, TCA overdose), calcium, fibrinolysis (ยกเว้นสงสัย cardiac arrest จาก pulmonary embolism), pacing, precordial thump (ยกเว้นในการรักษา monitored unstable VT ถ้าไม่สามารถทำ defibrillation/cardioversion ได้ทันที)
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบthanks.
ตอบลบ