Pediatric: wheezing emergencies
สรีรวิทยาของการหายใจที่สำคัญ
|
ซักประวัติ
- อายุที่เริ่มเป็น โรคที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก < 1 ปี คือ bronchiolitis; ในเด็ก > 2 ปี พบ asthma บ่อยที่สุด
- ประวัติเป็นทันทีสงสัย FB aspiration, asthma, allergic reaction
- ประวัติเป็นๆหายๆ (asthma) เป็นเรื้อรัง (asthma, cystic fibrosis, CHF, congenital anomaly)
- สิ่งกระตุ้น เช่น URI (bronchiolitis, asthma), allergen (asthma), สำลัก (FB aspiration)
- ประวัติการรักษาในอดีต เช่น การตอบสนองต่อ bronchodilator หรือ epinephrine, ประวัตินอน ICU, ETT
ตรวจร่างกาย
- Pediatric assessment triangle (Consciousness-Breathing-Circulation) ดูเรื่อง PALS resuscitation
- C: ตึง (muscle tone ดี?) ตอบ (ตอบสนอง โต้ตอบ สนใจสิ่งกระตุ้น?) ปลอบ (ร้องไห้ กระสับกระส่าย ปลอบได้?) มอง (มองสบตา?) พูด (พูด/ร้องเอง? เสียงปกติ?)
- B: ดูท่าทาง (sniffing, tripod) ดูหายใจเร็ว ใช้กล้ามเนื้อในการหายใจ (nasal flaring, retraction) ฟังเสียงหายใจผิดปกติ (stridor, wheezing)
- C: ผิว ดูซีด? ตัวลาย? เขียว?
- ประเมิน primary assessment โดยเฉพาะ breathing ฟังเสียงหายใจ ดูหน้าอกขยับเท่ากัน 2 ข้าง? ดู I:E ratio ดู O2 saturation ในเด็กที่เป็น asthma หรือ bronchiolitis อาจจะมี V/Q mismatch ได้ ถ้า O2 sat ต่ำไม่มาก (92-94%) จะแก้ไขได้ด้วย O2 supplement 1-2 L/min ในรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วย bronchodilator หรือการให้ O2 supplement ต้องคิดถึงการวินิจฉัยอื่นด้วย เช่น pneumonia, pneumothorax, pulmonary shunt, congenital cardiac lesion
- สิ่งสำคัญ คือ การประเมินหลังการรักษาว่าตอบสนองต่อ bronchodilator และการรักษาอื่นๆหรือไม่
DDx
ในเด็กที่มาด้วย wheezing ได้แก่
|
Bronchiolitis
- ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ RSV ใช้เวลาฟักตัว 2-8 วัน มักพบในเด็ก < 2 ปี ติดจาก droplets เข้าสู่ mucosa ของตาหรือจมูก เชื้อสามารถติดอยู่ตามของใช้ได้หลายชั่วโมง
- มาด้วยอาการ URI น้ำมูกไหล หายใจเร็ว ไอ หายใจมีเสียง wheeze, crepitation อาจมีไข้ หายใจเหนื่อย ใช้กล้ามเนื้อในการหายใจ จมูกบาน ซึ่งอาการจะเป็นมากที่สุดในวันที่ 3-5 สามารถเป็นได้นาน 7-21 วัน
- ทารกที่เสี่ยงต่อการเกิด apnea ได้แก่ prematurity GA < 37 wk., อายุ < 12 wk., มีประวัติ apnea, มีโรคร่วม (chronic lung disease, immunodeficiency, cardiopulmonary disease)
Ix: nasal swab for
RSV; ตรวจ W/U ตามเกณฑ์ในการหา serious
bacterial infection (ดูเรื่อง Pediatric: acute fever); CXR
อาจทำในรายที่มีอาการรุนแรงหรือประวัติไม่ชัดเจน
Tx:
- การรักษาที่สำคัญที่สุดคือ การรักษา nasal obstruction โดยการหยอด NSS บ่อยๆและ suction; ให้คนเลี้ยงล้างมือบ่อยๆ ให้ suction ก่อนป้อนอาหาร โดยป้อนทีละน้อย แต่บ่อยๆ
- Intermittent หรือ continuous O2 sat monitoring; O2 supplement ให้ O2 sat > 90%
- มักจะมีภาวะ dehydration ประเมินและให้ทดแทนทาง NG หรือ IV
- พิจารณาให้ epinephrine (1:1,000) 0.5 mL + NSS to 4 mL) q 1-2 h ให้ร่วมกับ dexamethasone 1 mg/kg PO ที่ ER และให้ขนาด 0.6 mg/kg x 5 วัน ในรายที่อาการรุนแรง
- ยาที่ไม่ควรให้ได้แก่ bronchodilator NB, 3% NSS NB, Heliox, การให้ epinephrine NB หรือ dexamethasone อย่างใดอย่างหนึ่ง
Disposition
- ในรายที่เสี่ยงต่อ apnea หรือมีอาการรุนแรง (persistent tachypnea, retraction, dehydration, O2 sat < 90%) ให้ admit
- ในรายที่อาการปานกลาง อาจรักษาและสังเกตอาการ 2-4 ชั่วโมง แล้วประเมินซ้ำ (clinical, feeding)
- ในรายที่อาการดี (อายุ < 2 เดือน RR < 45; < 2 ปี RR < 40; no retraction, no apnea risk) ให้ D/C ได้ ล้างและดูดจมูกบ่อยๆ ให้สังเกตเรื่องการหายใจ (RR, retraction) เรื่องการกิน
Asthma
- ประวัติที่สำคัญในรายที่สงสัย asthmatic attack คือ เคยเป็น asthma มาก่อน? ความรุนแรงเมื่ออาการกำเริบ? มีสิ่งกระตุ้นที่รักษาได้หรือไม่?
- ในรายที่ไม่มีประวัติมาก่อนจะสงสัย asthma เมื่อมีอาการของ wheezing และอาการดีขึ้นด้วย bronchodilator; ในเด็ก < 1 ปี ที่เป็น wheezing ครั้งแรกให้คิดถึง bronchiolitis
- ประเมินความรุนแรงของ asthmatic attack โดยใช้ PRAM (The Pediatric Respiratory Assessment Measure) ถ้า mild (PRAM score 0-3), moderate (PRAM score 4-7), severe (PRAM score 8-12)
Sign/Scoring
|
0
|
1
|
2
|
3
|
Suprasternal
retractions
|
ไม่มี
|
มี
|
||
Scalene
muscle contractions
|
ไม่มี
|
มี
|
||
Air
entry
(ข้างที่แย่กว่า)
|
ปกติ
|
ลดลงที่ชายปอด
|
ลดลงทั่วๆ
|
แทบไม่ได้ยิน
|
Wheezing (ข้างที่แย่กว่า)
|
ไม่มี
|
เฉพาะ
expiration
|
ทั้ง
In- และ expiration
|
ได้ยินชัดโดยไม่ต้องใช้หูฟัง
หรือไม่ได้ยินเพราะ poor air entry
|
O2
saturation
(RA)
|
> 95%
|
92%–94%
|
< 92%
|
Ix:
- CXR ในรายที่มีข้อบ่งชี้ ได้แก่ สงสัย pneumonia (localized rales/dullness ที่ไม่หายหลังให้ bronchodilator, T > 39°C, มี respiratory distress มากเกินกว่าที่ตรวจร่างกายพบ), pneumothorax (เจ็บหน้าอก อาการไม่คงที่ ไม่ได้ยิน breath sound), FB/CHF (ไม่ตอบสนองต่อการรักษา)
- ABG พิจารณาใน severe exacerbation
Tx:
- O2 supplement ให้ O2 sat 93-98%
- Albuterol/Salbutamol MDI (100 mcg/puff) 2, 4, 6, 8 puff (เด็ก < 1 ปี, 1-3 ปี, 4-6 ปี, > 7 ปี) with spacer โดยให้ตามความรุนแรง โดย mild q 60 min, moderate q 30-60 min หรือให้เป็น NB ขนาดยา 0.15-0.3 mg/kg/dose (minimum 2.5 mg) แต่มีผลข้างเคียงมากกว่า MDI
- ใน severe exacerbation แนะนำให้ ipratropium MDI (20 mcg/puff) 3 puffs หรือ 0.25-0.5 mg NB ร่วมกับ salbutamol q 20 min x 3 doses then q 20-60 นาที ตามอาการ
- มีการใช้ Salbutamol 0.5-3 mg/kg/h IV ในรายที่ poor air entry มากๆ เพราะให้ nebulizer ตั้งแต่แรงอาจจะไม่ได้ผล
- Systemic corticosteroid ใน moderate-severe exacerbation เช่น prednisolone 2 mg/kg PO (max 50 mg) ที่ ER then 1 mg/kg/d x 4 วัน หรือ dexamethasone 0.6 mg/kg (max 16 mg) x 1-2 วัน
- V/S และประเมิน PRAM ซ้ำตามความรุนแรง ทุก 20-60 นาที
- MgSO4 25-75 mg/kg IV (max 2 gm) x 1 ในรายที่ impending respiratory failure
- Epinephrine (1:1000) 0.01 mg/kg SC (up to 0.3-0.5 mg) q 20 min หรือ terbutaline 0.01 mg/kg SC q 20 min for 3 doses ในกรณีที่ poor air entry มากๆทำให้พ่นยาไม่ได้ผลและไม่มียา salbutamol IV ให้ใช้
- ในรายที่ severe exacerbation หลังให้การรักษาแล้วแต่ hypoxemia กลับแย่ลง หายใจเร็วขึ้น เหงื่อแตก พูดไม่ได้ ง่วงซึม ดูอ่อนล้ามาก ให้พิจารณาช่วย ventilation โดยชั่งน้ำหนักข้อดี ข้อเสีย
- BiPAP (บางรายอาจต้อง sedation ให้ midazolam 0.05-0.1 mg/kg หรือ ketamine 0.5-1 mg/kg IV then 0.25 mg/kg/h): start IPAP 12 cmH2O (12-18), EPAP 6 cmH2O (6-12)
- ETT
RSI technique
|
Disposition:
- ทุกรายต้องสังเกตอาการอย่างน้อย 60 นาทีหลังจากให้ bronchodilator ครั้งสุดท้าย
- ใน mild exacerbation ถ้า PRAM < 3 สามารถ D/C ได้
- ใน moderate exacerbation ถ้าหลังให้ corticosteroid 6-8 ชั่วโมงแล้ว PRAM ยัง > 4 พิจารณา admit
- ใน severe exacerbation ถ้าหลังให้ corticosteroid 4 ชั่วโมงแล้ว PRAM ยัง > 4 พิจารณา admit
- ผู้ป่วยทุกคนที่ D/C ต้องมี action plans และได้ inhaled corticosteroid (ยกเว้น mild intermittent asthma) ได้แก่ budesonide (Pulmicort®) 180-360 mcg BID, fluticasone 88-440 mcg BID, beclomethasone 40-80 mcg BID, ciclesonide 80-320 mcg BID
Viral-induced
wheezing
(< 4 ปี)
คือ
มี wheezing ขณะที่มี URI
> 3 ครั้งต่อปี โดยสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ RSV และ rhinovirus
- ให้ SABA เมื่อมีอาการ (ไม่ได้ผลใน
bronchiolitis) และให้ prednisolone 1-2 mg/kg/d x 3 วัน ในรายที่มีประวัติ severe หรือ refractory
disease
- การป้องกัน ให้ high-dose inhaled glucocorticoid (fluticasone
HFA 110 mcg/puff 2 puff BID, budesonide 1 mg NB BID) เมื่อเริ่มมี URI (ก่อนมี wheezing) นานได้ถึง 10 วัน แต่ในรายที่เป็นบ่อย
แต่ละครั้งเป็น > 1 วัน รบกวนการนอน และมีความเสี่ยงต่อ asthma
(เช่นประวัติครอบครัว) หรือใช้ intermittent
high-dose glucocorticoid แต่ไม่ดีขึ้น แนะนำให้ daily
controller คือ standard dose inhaled glucocorticoid (fluticasone
HFA 44 mcg/puff 2-4 puff BID) หรือ montelukast
Ref: Tintinalli ed8th, Up-To-Date
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น