Acute pain
management
ประเมินลักษณะอาการปวด ระยะเวลา ตำแหน่ง ความรุนแรง (แค่ถามว่าปวดมากหรือไม่ ปวดมากหรือปวดเล็กน้อย หรือใช้เครื่องมือช่วย เช่น
Visual analog scale) ปัจจัยที่ทำให้อาการปวดดีขึ้นหรือแย่ลง
ไม่ควรประเมินความรุนแรงของอาการปวดจาก
vital signs หรือจาก
สีหน้า ท่าทาง อย่างเดียว
***visual analog scale ถือว่าระดับความปวดเปลี่ยนแปลงถ้าเปลี่ยนมากกว่า 13 mm และถือว่าความปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อความปวดลดลง > 30 mm
Visual analog scale, Wong-Baker's Faces pain |
แบ่งระดับความปวดดังนี้
- Mild pain (VAS < 40 mm; NRS < 4)
- Moderate pain (VAS 40-70 mm; NRS 4-7)
- Severe pain (VAS > 70 mm; NRS > 7)
การรักษาโดยใช้ยา โดยเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับระดับความเจ็บปวด
(ไม่มีความจำเป็น
ต้องเลือกใช้ยาแบบเป็นขั้นบันได) เช่น mild-moderate
pain ควรเลือกใช้ NSAIDs แต่ถ้า moderate-severe
pain ควรใช้ opioid ยกเว้นบางโรคที่ตอบสนองดีต่อ
NSAIDs อาจเลือกใช้ NSAIDs ก่อนเช่น renal
colic, biliary colic เป็นต้น หรืออาจใช้ local anesthesia เสริมตามความเหมาะสม
Opioid ให้เลือกยาในกลุ่มนี้ตัวใดตัวหนึ่ง แล้วค่อยๆเพิ่มขนาดยาจนได้ผล
เพราะผู้ป่วยแต่ละคนจะตองสนองต่อยาในขนาดที่ไม่เท่ากัน โดยขนาดยาที่จะให้เริ่มต้นได้แก่
Equivalent opioid doses (เป็นเพียงการประมาณ ไม่ใช่เป็นตัวเลขตายตัว)
IV dose:
Mo 10 = Fentanyl 0.1 mg = pethidine 75 mg = hydromorphone 1.5 mg = oxycodone
15 mg = codeine 130 mg
PO dose:
Mo 60 mg (acute), 30 mg (chronic) = Fentanyl 0.2 mg (transmucosal) = tramadol
350 mg = codeine 200 mg = hydromorphone 7.5 mg = oxycodone 30 mg =
hydrocodone 30 mg
|
- Morphine 0.1 mg/kg IV หรือ 10 mg IM/SC (onset 1–2 min (IV), 10–15 min (IM/SC); peak effect 3–5 min (IV), 15–30 min (IM); duration 1-2 h (IV), 3-4 h (IM/SC))
- Fentanyl 1.0 µg/kg IV (onset < 1 min (IV); peak effect 2–5 min (IV); duration 30–60 min (IV)) หรือ 100 µg nasal spray q > 2 h (สำหรับ breakthrough pain ในผู้ป่วย opioid-tolerant cancer)
- Tramadol 50-100 mg PO (onset 10-15 min; duration 4-6 h)
- ยาที่ไม่นิยมให้ได้แก่ meperidine (เสี่ยงต่อ addict, seizure, serotonin syndrome), codeine (ประสิทธิภาพต่ำ ผลข้างเคียงสูง)
- การให้ยาด้วยระบบ patient-controlled IV analgesia ได้ประสิทธิภาพดีกว่า intermittent IV dose
- ผู้ป่วยสูงอายุให้ลด dose opioid ในขนาดเริ่มต้นลงครึ่งหนึ่ง
- ผู้ป่วย renal dysfunction แนะนำให้ fentanyl โดย ถ้า GFR < 50 ให้ Fentanyl 75% ของ dose ปกติ ถ้า GFR < 10ให้ 50% ของ dose ปกติ
- ในคนสูงอายุหรือได้ยาครั้งแรกต้องให้คำแนะนำ เช่น ให้หลีกเลี่ยงการขับรถ การใช้เครื่องจักร การปีนป่าย การทำงานบนที่สูง การตัดสินใจสิ่งสำคัญ รวมถึงสอนเรื่องการรักษาเรื่องท้องผูก
Opioid Agonist-antagonist ได้แก่ buprenorphine butorphanol,
dezocine, nalbuphine, pentazocine ซึ่งยากลุ่มนี้มีข้อดีคือ
เมื่อเพิ่มระดับยามากขึ้นจะไม่กดการหายใจเพิ่มขึ้น
แต่ต้องระวังในการให้ในผู้ป่วยกลุ่ม opioid additive เพราะอาจเกิด
withdrawal symptoms ได้
Non-opioid
- Paracetamol 10-15 mg/kg (max 1,000 mg) PO q 4-6 h (max PO 3 g/d; IV 4 g/d)
- NSAIDs ได้แก่ aspirin 325-650 mg PO q 4 h, ibuprofen 400-800 mg PO q 4-6 h, celecoxib 200 mg PO OD
- Ketamine 0.15-0.4 mg/kg IV > 10 min +/- IV drip 0.1-0.2 mg/kg/h ใช้ร่วมกับ opioid ในผู้ป่วย severe pain เช่น trauma, acute flare ของ neuropathic pain หรือให้ SC drip ใน palliative care
- Nitrous oxide (mixture กับ O2 50/50 หรือ 70/30) ใช้ดมในการทำหัตถการสั้นๆ ห้ามใช้ในกลุ่ม altered mental status, head injury, pneumothorax, perforated abdominal viscus
- Anticonvulsants,
Cyclic antidepressants ใช้ในการรักษา
neuropathic pain ได้แก่
amitriptyline/nortriptyline 0.1 mg/kg PO OD เย็น then
เพิ่ม q 2-3 wks, gabapentin 300 mg PO OD then เพิ่มได้ถึง 300 mg/d (postherpetic neuralgia, phantom limb pain),
carbamazepine 100 mg PO BID then เพิ่ม 100-200 mg/d (trigeminal
neuralgia), pregabalin 50 mg PO TID then เพิ่ม
q > 1 wks (fibromyalgia, spinal cord pain,
postherpetic neuralgia, poststroke pain), duloxetine (diabetic neuropathy)
- Topical medication เช่น topical NSAIDs (1% diclofenac gel 2 gm (hand, wrist, elbow) หรือ 4 gm (knee, ankle, feet) apply QID (max 32 g/d)) ในการรักษา soft tissue injury หรือ OA knee; topical lidocaine (5% lidocaine gel apply 1/8 inch thick; onset 20 min-1 h) ในการรักษา postherpetic neuralgia และ diabetic neuropathy
***ผู้ป่วย trauma
แนะนำให้ fentanyl IV bolus then drip + regional analgesia เพราะไม่ส่งผลต่อ hemodynamic; ให้หลีกเลี่ยง NSAIDs
ในผู้ป่วย major trauma เพราะเพิ่ม risk
bleeding (platelet dysfunction), gastric stress ulcer, renal failure (volume
depletion)
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้แก่
intranasal drug delivery, drug seeker
Ref: Tintinalli ed8th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น