Pre-arrest
care
|
หลังจากประเมิน CBC (consciousness-work of breathing-color) แล้วพบว่าผู้ป่วย “ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ หายใจเฮือก”
- เรียกคนมาช่วย ขอเครื่อง AED/defibrillator
- จัดผู้ป่วยให้นอนในพื้นราบ เรียบและแข็ง
- C: คลำ pulse ถ้าไม่มี pulse ภายใน 10 sec ให้กดหน้าอก 15 ครั้ง (30 ครั้งถ้าไม่มีผู้ช่วย) รวมถึง pulse < 60 + poor perfusion (ภายหลังให้ oxygenation และ ventilation)
- A: Head tilt-chin lift/Jaw thrust
- B: ช่วยหายใจอัตราส่วน 15:2 (30:2 ถ้าไม่มีผู้ช่วย)
- Start CPR, attach monitor, ให้ O2
- Defibrillation 2 J/kg ในครั้งแรก 4 J/kg ในครั้งที่สอง และ > 4 J/kg ในครั้งต่อๆมาแต่ไม่เกิน 10 J/kg (< 200 J)
- IV/IO access
- ให้ epinephrine 0.01 mg/kg (0.1 mL/kg 1:10,000) IV q 3-5 min (ให้ภายใน 5 นาทีหลังเริ่มกดหน้าอก) ตาม algorithm จะให้หลังจากทำการช็อกไฟฟ้าครั้งที่สอง
- พิจารณาใส่ advanced airway (ETT, LMA) + ETCO2 ช่วยหายใจ 1 ครั้งทุก 2-3 วินาที (20-30 ครั้ง/นาที)
- ให้ Amiodarone 5 mg/kg IV push หรือ lidocaine 1 mg/kg IV หลังทำการช็อกไฟฟ้าครั้งที่สาม (refractory VF) และครั้งที่ห้า
ในเด็ก < 8 ปี หรือ < 25 kg ถ้าใช้ AED ต้องมี pediatric dose attenuator |
ในเด็ก < 1 ปีหรือ < 10 kg ถ้าใช้เครื่อง defibrillator ให้ใช้ paddle เด็ก |
- Start CPR, attach monitor, ให้ O2
- IV/IO access
- ให้ epinephrine 0.01 mg/kg (0.1 mL/kg 1:10,000) IV q 3-5 min (เน้นให้เร็วภายใน 5 นาทีหลังเริ่มกดหน้าอก)
- พิจารณาใส่ advanced airway (ETT, LMA) + ETCO2 ช่วยหายใจ 1 ครั้งทุก 2-3 วินาที (20-30 ครั้ง/นาที)
- กดหน้าอกลึกอย่างน้อย 1/3 ของความลึกทรวงอก (5-6 ซม. ในเด็ก > 1 ปี และ ประมาณ 4 cm ในทารก) เร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที และปล่อยหน้าอกให้คืนสุดไม่กดค้าง
- รบกวนการกดหน้าอกให้น้อยที่สุด
- สลับผู้กดหน้าอกทุก 2 นาที
- ใช้ audiovisual feedback ในการปรับปรุงการกดหน้าอก พบว่าโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นถ้า DBP > 25 ในทารก และ > 30 mmHg ในเด็ก หรือ ETCO2 17-18 mmHg
Hypothermia
Hypoxia
Hypovolemia
Hypoglycemia Hypo/hyperkalemia Hydrogen ion |
Toxins
Tamponade (cardiac) Tension pneumothorax Thrombosis (MI) Thrombosis (PE) |
- ETT size x 1 = 4 + (อายุ /4) ใน uncuff และ 3.5 + (อายุ/4) ใน cuff
- ETT size x 2 = Suction size, NG/OG, Foley’s catheter
- ETT size x 3 หรือ 12 + (อายุ/2) = ETT depth
- ETT size x 4 = ICD size
- Laryngoscope blade size no.1 < 10 kg; no.2 BW 10-30 kg; no.3 > 30 kg
- OPA วัดจากมุมปากถึง angle of mandible; NPA จัดจากจมูกถึงติ่งหู
- เห็น chest move 2 ข้าง ฟังปอด 2 ข้าง เหนือ axillae
- ฟัง gastric insufflation ที่ stomach
- ดู ETCO2 หรือ oesophageal detector device (> 20 kg with perfusing rhythm)
- ดู O2 saturation
- ถ้ายังไม่มั่นใจ ให้ใช้ direct laryngoscopy ดูว่า ETT ผ่านเข้าไประหว่าง vocal cord
- CXR
- ถ้าอาการเปลี่ยนแปลงให้คิดถึง “DOPE” Displacement of the tube, Obstruction of the tube, Pneumothorax, Equipment failure
- Targeted temperature management: รักษาอุณหภูมิแกนอยู่ที่ 36-37.5oC เป็นเวลา 5 วัน หรืออาจพิจารณาทำ therapeutic hypothermia (32-34oC) ใน 2 วันแรกก่อนก็ได้
- BP
management: รักษา SBP > 5th percentile
(ทำ A-line)
โดยการให้ intravascular volume ให้เพียงพอ หรือร่วมกับให้
vasoactive drugs
- Oxygenation
และ ventilation management:
ให้ O2 saturation อยู่ที่ 94-99%,
ให้ PaCO2 อยู่ในระดับที่เหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละภาวะ
แต่ไม่ควรให้ > 50 หรือ < 30 mmHg
- EEG monitor และ seizure treatment: พิจารณาทำ EEG monitoring ในผู้ป่วยทีมี encephalopathy และรักษา seizure ทั้ง convulsive และ nonconvulsive (ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ)
การหยุด
CPR
ไม่สามารถกำหนดเวลาแน่ชัดลงไปได้
เพราะขึ้นกับประสิทธิภาพในการ CPR แต่มีข้อมูลว่าเด็กที่ CPR
> 20 นาที หรือ CPR + epinephrine x 2 dose โอกาสที่จะรอดชีวิตจนออกจากรพ.ได้น้อยมากและจะมี neurological
outcome ที่ไม่ดี ซึ่งผู้ช่วยเหลือต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆอย่างรอบคอบก่อนหยุดการช่วยชีวิต
Family presence during CPR
แนะนำให้อนุญาตให้ญาติอยู่ขณะทำ
CPR
ได้ (ถ้าไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำ CPR) มีคนคอยแนะนำว่ากำลังทำอะไรและคอยตอบคำถาม
พบว่าไม่มีผลกับ survival rate แต่มีประโยชน์กับจิตใจของญาติ
การแจ้งข่าวร้ายแก่ครอบครัวเด็ก
ให้แจ้งการเสียชีวิตให้ครอบครัวทราบโดยเร็ว
โดยใช้ภาษาที่ง่ายและตรงไปตรงมา พูดแสดงความเห็นอกเห็นใจ โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายรายละเอียดทางเทคนิคที่ทำการรักษา
เช่น “น้อง…เสียชีวิตแล้ว
หมอขอแสดงความเสียใจด้วย เราพยายามช่วยทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จ” อาจมีทีมช่วยเหลือครอบครัวผู้ป่วยในการจัดการกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้น
แพทย์ควรอยู่ต่ออีกสักระยะหนึ่งเพื่อที่จะตอบคำถามที่เกิดขึ้น
และถามความต้องการของครอบครัวในการไปดูผู้ป่วย รวมถึงบอกล่วงหน้าว่าจะเห็นอะไรบ้าง
Ref: AHA, Tintinalli ed9th,
Update PALS 2020
Amazing! write-up.
ตอบลบCPR Perris CA